ทำความรู้จักพี่หมอแม็ค

ประวัติการศึกษา​

ประสบการณ์การสอน

เตรียมพร้อมสอบ TGAT มีเรื่องไหนต้องรู้บ้าง?

#DEK67 หลายคนคงเคยได้ยินเรื่อง TGAT กันมาบ้างในช่วงเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย แต่น้องๆ ยังคงสงสัยกันอยู่ใช่ไหมว่า TCAS67 มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปบ้าง? TGAT คืออะไร? TGAT ออกสอบอะไรบ้าง? แล้วยังมีเรื่องอะไรที่เราต้องรู้บ้าง? ถ้าเคยได้ยินกันมาบ้างแต่ยังไม่เข้าใจและเกิดความกังวลว่าจะต้องเตรียมตัวยังไง วันนี้พี่แม็คอยากชวนน้อง DEK67 และคุณพ่อคุณแม่มาทำความรู้จักกับ TGAT และเตรียมพร้อมสอบ TGAT ไปด้วยกัน

ความแตกต่างระหว่าง TGAT กับ GAT

TGAT หรือ Thailand General Aptitude Test คือระบบสอบวัดความถนัดทั่วไปที่เริ่มใช้ในปี 2565 ด้วยระบบ TCAS66 และมีคะแนนเต็ม 300 คะแนนเหมือนเดิม TGAT เป็นการสอบที่มีเกณฑ์การสอบวัดระดับเหมือนกับข้อสอบ GAT ในสมัยก่อนเลย ซึ่ง TGAT ไม่เน้นความรู้ในเชิงวิชาการ แต่เพิ่มข้อสอบวัดผลในด้านต่างๆ มากขึ้น ลดความซ้ำซ้อนของรายวิชาสอบและเน้นการนำเอาความรู้ที่เรียนมาประยุกต์ใช้งาน ที่สำคัญยังสามารถเลือกรูปแบบการสอบในแบบคอมพิวเตอร์ หรือ CBT ได้ ซึ่งจะเป็นการสอบที่มหาวิทยาลัย แต่การสอบแบบกระดาษ หรือ PBT ก็ยังมีอยู่นะ เป็นการสอบแบบปกติที่ต้องทำการเลือกโรงเรียนนั่นเอง การสอบทั้ง 2 รูปแบบนี้มีการสอบรอบเดียวในวันและเวลาเดียวกันเลยน้า

TGAT สอบอะไรบ้าง?

ข้อสอบ TGAT มีทั้งหมด 3 Part (ต้องสอบทุกส่วนน้า) ก็คือ TGAT1 : การสื่อสารภาษาอังกฤษ, TGAT2 : การคิดอย่างมีเหตุผล และ TGAT3 : สมรรถนะการทำงานในอนาคต มาดูกันว่าแต่ละพาร์ทเป็นยังไง แล้วต้องเตรียมตัวอ่านหนังสือกับการสอบ TGAT ยังไงบ้าง

TGAT PART 1

การสื่อสารภาษาอังกฤษ (English Communication) 100 คะแนน

TGAT พาร์ทนี้ให้น้องๆ ฝึกข้อสอบ Conversation อ่านสำนวน และฝึกท่องคำศัพท์พื้นฐานที่ควรรู้ทั่วๆ ไป TGAT1 รหัส 91 มีข้อสอบทั้งหมด 60 ข้อ แบ่งออกเป็น 2 หัวข้อ

  • การถาม – ตอบ (Question-Response)
    • จำนวนข้อคำถาม 10 ข้อ
    • ระดับข้อสอบ (ง่าย 2 ข้อ / กลาง 6 ข้อ / ยาก 2 ข้อ)
  • เติมบทสนทนาแบบสั้น (Short Conversations) จำนวน 3 บทสนทนา
    • จำนวนข้อคำถาม (3-4 ข้อ / บทสนทนา รวม 10 ข้อ)
    • ระดับข้อสอบ (ง่าย 2 ข้อ / กลาง 6 ข้อ / ยาก 2 ข้อ)
  • เติมบทสนทนาแบบยาว (Long Conversations) จำนวน 2 บทสนทนา
    • จำนวนข้อคำถาม (5 ข้อ / บทสนทนา รวม 10 ข้อ)
    • ระดับข้อสอบ (ง่าย 2 ข้อ / กลาง 6 ข้อ / ยาก 2 ข้อ)
  • เติมข้อความในเนื้อเรื่องให้สมบูรณ์ (Text Completion) จำนวน 3 บทความ
    • จำนวนข้อคำถาม (5 ข้อ / บทสนทนา รวม 15 ข้อ)
    • ระดับข้อสอบ (ง่าย 3 ข้อ / กลาง 9 ข้อ / ยาก 3 ข้อ)
  • อ่านเพื่อจับใจความ (Reading Comprehension) จำนวน 5 บทความ
    • จำนวนข้อคำถาม (3 ข้อ / บทสนทนา รวม 15 ข้อ)
    • ระดับข้อสอบ (ง่าย 3 ข้อ / กลาง 9 ข้อ / ยาก 3 ข้อ)
    • หมายเหตุ: บทความทั่วไปที่ใช้ในการสื่อสาร มีจำนวนคำประมาณ 100 – 200 คำ

TGAT PART 2

การคิดอย่างมีเหตุผล (Critical & Logical Thinking) 100 คะแนน

TGAT2 รหัส 92 พาร์ทนี้จะไม่มีข้อสอบบทความแบบ GAT เชื่อมโยงอีกแล้ว ซึ่งจะวัดความเป็นเหตุเป็นผล, ตรรกะ และการแก้ไขปัญหานั่นเอง แอบกระซิบว่าพาร์ทนี้แหละที่พี่แม็คสอนครับ โดยพี่จะแบ่ง TGAT2 ออกเป็น 4 Part 80 ข้อ คือ

  • ตัวข้อสอบจะเป็นเหมือนข้อสอบภาษาไทยเลย ซึ่งถามเกี่ยวกับความเข้าใจทางภาษา การใช้ภาษา ถามเกี่ยวกับสำนวน และมีเรื่องการอ่านด้วย
  • ข้อสอบจะออกเกี่ยวกับอนุกรมมิติ, การเปรียบเทียบเชิงปริมาณ หรือ สดมภ์นั่นเอง, ความเพียงพอของข้อมูล และโจทย์ปัญหา
  • ข้อสอบออกเกี่ยวกับเรื่องการพับกล่อง, การหาภาพต่าง, การหมุนภาพสามมิติ และการประกอบภาพ
  • ข้อสอบจะออกคล้ายๆ ด้านมิติสัมพันธ์เลย เป็นข้อสอบเกี่ยวกับเรื่องของอนุกรมภาพ, อุปมาอุปไมยภาพ, สรุปความ และการวิเคราะห์ข้อความหรือวิเคราะห์เงื่อนไข

TGAT PART 3

สมรรถนะการทำงานในอนาคต (Future Workforce Competencies) 100 คะแนน

TGAT3 รหัส 93 พาร์ทนี้จะเป็นข้อสอบแบบปรนัย 4 ตัวเลือก ก็จะวัดทัศนคติ 4 ระดับแบ่งออกเป็น 4 Part เหมือนกัน แต่มี 60 ข้อ โดย TGAT พาร์ทนี้พี่แม็คมีสอนด้วยเหมือนกันครับ

  • จะเป็นข้อสอบที่ให้น้องๆ เน้นหลักการการค้นหาสิ่งใหม่ๆ ขึ้นมา ซึ่งจะทดสอบในด้านการคิดเชิงวิเคราะห์ การแก้ไขปัญอย่างมืออาชีพ มีความพร้อมที่จะแก้ปัญหา และความคิดเชิงนวัตกรรม
  • ข้อสอบจะเป็นการสร้างเหตุการณ์ขึ้นมาให้น้องๆ ได้อ่านแล้วนำมาตอบคำถาม การเห็นถึงปัญหา เข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้น และจะหาทางออกแก้ไขปัญหาได้ยังไงให้มีประสิทธิภาพ
  • พาร์ทนี้จะทดสอบในด้านการจัดการอารมณ์ การควบคุมอารมณ์ และการเข้าใจคนอื่น ซึ่งแนวข้อสอบเน้นหลักการคิดถึงส่วนรวม การเสียสละ ช่วยเหลือกันอย่างเท่าเทียมนั่นเอง
  • พาร์ทนี้ก็จะเน้นการบริการสังคม เพื่อรักษาความสัมพันธ์กับผู้คนในสังคม การให้ความสำคัญรับผิดชอบต่อส่วนรวม และเน้นการทำสิ่งใหม่ๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับทุกคนในสังคมอย่างสร้างสรรค์

TGAT Part 3 นี้อาจจะเป็นเรื่องใหม่สำหรับน้องๆ เลยก็ว่าได้ พาร์ทนี้เป็นเหมือนตัวช่วยในการทำงานให้สำเร็จและมีประสิทธิภาพ เน้นความคิดที่อยากเรียนรู้เพิ่มเติม เพิ่มทักษะความเข้าใจผู้อื่น ตระหนักรู้ถึงตัวเอง อย่างเช่นว่า เรามีความสุขกับอะไร ชื่นชอบอะไร ถนัดที่จะทำงานอะไร และยังเน้นไปถึงทักษะในการเข้าสังคมด้วยนะ

แล้วคณะไหนบ้างที่ใช้คะแนน TGAT 100%

มาดูกันว่าคณะไหนบ้างที่ต้องใช้คะแนน TGAT 100% ในการเข้าไปเรียน น้องๆ จะได้เตรียมตัวให้พร้อมกับการทำคะแนน TGAT แบบ 100% ไม่เหลือเผื่อใคร 

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

มหาวิทยาลัยศิลปากร สนามจันทร์

มหาวิทยาลัย
ขอนแก่น

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

มหาวิทยาลัย
มหิดล

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

คะแนน TGAT มีความสำคัญไม่น้อยเลย

ในการที่จะได้เข้าเรียนในคณะในฝัน หากน้องๆ อยากเข้าคณะไหนก็ต้องเตรียมตัวให้ดี เพราะคะแนน TGAT สามารถใช้ยื่นสมัครสอบได้ทั้งรอบแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) รอบโควตา หรือรอบ Admission ได้ด้วย โดยจะมีการใช้คะแนน TGAT ที่แตกต่างกันไป
ดังนั้น DEK67 ควรเตรียมตัวในการสอบ TGAT ให้เป็นอย่างดี เพื่อที่จะได้เข้าไปเรียนในคณะที่ฝันไว้!
อย่าลืมเตรียมพร้อมพิชิต TGAT กันนะครับ

โดยตอนนี้พี่หมอแม็คก็ได้เปิดคอร์สสอน TGAT รุ่น 67 เรียบร้อยแล้วนะครับ (สอน TGAT2 กับ TGAT3) 
โดยจะสอนตามข้อสอบจริงปีล่าสุด (2566) น้องคนไหนที่สนใจทักหาพี่ได้เลยนะคร้าบ^^